‘ออกเจ’ ให้ถูกต้อง 5 หลักการกินอาหารเจ ให้ได้สุขภาพดี

1. อย่าเพิ่งกินเนื้อสัตว์

พอหมดเจแล้ว วิธีออกเจเพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดี คือ ในช่วง 2-3 วันแรก อย่าเพิ่งทานเนื้อสัตว์ใหญ่ที่ย่อยยาก เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อไก่ แต่ให้ทานอาหารจำพวกนมถั่วต่างๆ ไข่ ปลา ไปก่อน
ถ้ากินเนื้อสัตว์ย่อยยากไปในทันที หรือการหักดิบ อาจจะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ได้ ท้องอืด เพราะย่อยยาก รวมถึงไม่ควรดื่มนมวัวในทันทีเพราะร่างกายอาจจะย่อยไม่ได้ ให้กินทีละน้อยๆ จะดีกว่า

2. ไม่ควรกินอาหารรสจัด

เนื่องจาก 9 วันที่ผ่านมาร่างกายของคุณเคยชินกับอาหารรสชาติอ่อนๆ การกินอาหารรสจัดในทันทีอาจส่งผลเสียต่อระบบการย่อยอาหาร เช่น กินเผ็ดจัดในทันทีก็อาจจะปวดท้อง หรือโรคกระเพาะถามหาได้ ดังนั้นอย่ากินอาหารรสจัดทันที ควรเน้นเป็นอาหารที่ไม่เผ็ดจัด หวานจัด มันจัด เช่น ต้มจืดไข่น้ำ ปลานึ่ง เป็นต้น

3. ลดแป้ง เน้นผักผลไม้

เนื่องจากช่วงกินเจ อาหารส่วนใหญ่จะเน้นแป้งเยอะ กินแป้งมาหนักๆ 9 วันก็อาจจะทำให้น้ำหนักพุ่งไปหลายกิโลกรัม ดังนั้นออกเจแล้วก็ได้เวลากลับมากินเนื้อสัตว์ ก็ควรลดแป้งไปด้วยในตัว เพิ่มเติมด้วยการกินผัก ผลไม้ ให้มากขึ้น
ควรกลับมากินอาหารที่ไม่มันมาก ประเภท ต้ม ย่าง ยำ อบ นึ่ง อย่างเช่น อาหารพื้นบ้านพวกแกงเลียง แกงป่า แกงอ่อม แกงแค ที่ไม่ใส่หมู ไม่ใส่น้ำมัน ก็จะช่วยลดน้ำหนัก

4. กินเนื้อสัตว์ วันที่ 4 เป็นต้นไป

เมื่อเข้าสู่วันที่ 4 จึงค่อยเริ่มกินเนื้อสัตว์ย่อยยาก เช่น เนื้อวัว หมู ไก่ แต่ให้กินในปริมาณที่น้อยๆ ก่อน แต่สำหรับ นมวัว นมแพะ ปลา และไข่ สามารถกินในปริมาณที่เยอะได้ และอย่าลืมกินอาหารให้ครบ 5 หมู่

5. ออกกำลังกาย

ควรกินอาหารมื้อเช้าๆ ในปริมาณมาก กินมื้อเที่ยงให้พอดี และมื้อเย็นควรกินให้น้อย และห่างจากเวลาเข้านอน 3-4 ชม. ที่สำคัญ อย่าลืม! ออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายเป็นการเผาผลาญไขมันให้ออกจากร่างกายได้ดีที่สุด ถ้าควบคุมอาหารเพียงอย่างเดียวจะลดน้ำหนักได้เพียง 9% แต่ถ้าออกกำลังกายและควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วย จะสามารถลดน้ำหนักไปได้ถึง 90%